คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีลงพื้นที่ส่งมอบและให้ความรู้การเลี้ยงชันโรงสายพันธุ์ขนเงินให้แก่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนบางนางลี่ จังหวัดสมุทรสงคราม
เมื่อวันที่ 10 - 11 ธันวาคม 2567
คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ลงพื้นที่ดำเนินกิจกรรมถ่ายทอดความรู้การเลี้ยงชันโรงสายพันธุ์ขนเงินให้แก่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนบางนางลี่
จังหวัดสมุทรสงคราม
ในโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตและยกระดับรายได้คนในชุมชนฐานรากด้วยวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี
และนวัตกรรม จังหวัดสมุทรสงคราม
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 โดยมี
ผู้ช่วยศาสตราจารย์สกุลตรา ค้ำชู
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.มณฑารพ สุธาธรรม
ผู้ช่วยศาสตราจารย์
ดร.รินรดา พัฒนใหญ่ยิ่ง
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ปิยดา วงศ์วิวัฒน์
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นฤมล บุญมั่น
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ศิริรัตน์
พักปากน้ำ และนางสาวปาณิสรา นิตุธร
หัวหน้าฝ่ายพัฒนางานวิจัยและบริการวิชาการ
โดยการเลี้ยงชันโรงนี้เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่จะสามารถสร้างรายได้ให้แก่ประชาชนได้
เนื่องจากน้ำผึ้งและเกสรของชันโรงมีราคาแพงกว่าน้ำผึ้งทั่วๆ
ไป
ซึ่งชันโรงถือว่าเป็นแมลงเศรษฐกิจชนิดหนึ่งที่ผู้เลี้ยงไม่ต้องหาอาหารให้
ชันโรงนี้จะออกหากินเอง และเข้ามาทำรัง
ซึ่งอาหารของชันโรง คือ
น้ำหวานจากดอกไม้และละอองเกสรจากพืช เช่น
มะพร้าว ลิ้นจี่ ลำไย มะม่วง
อีกทั้งชันโรงยังช่วยทำหน้าที่ผสมเกสรทำให้ได้ผลผลิตดีอีกด้วยนับว่าเป็นการช่วยเหลือเกษตรชาวสวนได้อีกแรง
ดังนั้นคณาจารย์จึงได้เลือกนำชันโรงสายพันธุ์ขนเงินส่งมอบให้แก่กลุ่มวิสากิจชุมชนบางนางลี่
จังหวัดสมุดทรสงคราม
กลุ่มผู้เลี้ยงชันโรงรุ่นใหม่ในตำบลบางนางลี่
จังหวัดสมุทรสงคราม
ซึ่งได้ติดต่อประสานงานกับวิสาหกิจชุมชนผึ้งชันโรงบ้านบางสักเก้า
จังหวัดจันทบุรี โดยมี คุณปยุต ไชยเสวนา
ได้ให้คำแนะนำในการเลี้ยงชันโรงและรับมอบสายพันธุ์ขนเงิน
เพื่อเป็นแม่พันธุ์เริ่มต้นในการเลี้ยงชันโรงในพื้นที่บางนางลี่
พร้อมกันนี้ทางคณะได้นำกล่องเลี้ยงมอบให้เพื่อเตรียมไว้สำหรับการขยายพันธุ์ชันโรงในเดือนถัดไป
ณ วิสากิจชุมชนบางนางลี่ อำเภออัมพวา
จังหวัดสมุทรสงคราม
โดยกิจกรรมดังกล่าวสอดคล้องกับ
SDG เป้าหมายที่ 1 ขจัดความยากจน (No
Poverty)
ด้วยการส่งเสริมการเลี้ยงชันโรงเป็นอาชีพช่วยเพิ่มรายได้ให้กับชุมชนฐานราก
ซึ่งสามารถลดความยากจนและสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจในพื้นที่ชนบทได้,
เป้าหมายที่ 8
การเติบโตทางเศรษฐกิจและการจ้างงานที่เหมาะสม
(Decent Work and Economic Growth)
ที่ให้การสนับสนุนอาชีพใหม่ในชุมชน เช่น
การเลี้ยงชันโรง
เป็นการสร้างเศรษฐกิจท้องถิ่นที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม,
เป้าหมายที่ 12
การผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน
(Responsible Consumption and Production)
ด้วยการเลี้ยงชันโรงที่ใช้ทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ
เช่น ดอกไม้และเกสรพืช
ส่งเสริมการผลิตที่ยั่งยืน และเป้าหมายที่
15
การใช้ประโยชน์จากระบบนิเวศทางบกอย่างยั่งยืน
(Life on Land)
เนื่องจากชันโรงเป็นแมลงที่มีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศ
โดยเฉพาะในกระบวนการผสมเกสร
การส่งเสริมการเลี้ยงชันโรงช่วยสนับสนุนความหลากหลายทางชีวภาพและการเกษตรเชิงนิเวศ
ดังนั้นกิจกรรมนี้จึงเป็นการช่วยส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนผ่านการใช้ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
นอกจากนี้ยังสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืนในหลายมิติ
ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
ผ่านการเลี้ยงชันโรงที่เป็นมิตรกับธรรมชาติและสร้างรายได้ที่ยั่งยืนให้แก่ชุมชน